วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
Past Simple Tense
Past Simple Tense คือเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้วในอดีต
รูปแบบ Subject + V.2* + Object หรือส่วนขยาย
Adverbs of Time ที่บอกเวลาในอดีต ได้แก่
ago | ผ่านมาแล้ว |
yesterday | เมื่อวานนี้ |
last night | เมื่อคืนนี้ |
last week | สัปดาห์ที่แล้ว |
last month | เดือนที่แล้ว |
last year | ปีที่แล้ว |
a long time | เป็นเวลานานแล้ว |
the day before yesterday | เมื่อวานซืนนี้ |
in 2000 | ในปี 2000 |
this morning | เมื่อเช้านี้ |
* หมายเหตุ V.2 คือ กริยาเติม “d” หรือ “ed” ในกรณีเป็นกริยาปกติ (Regular Verb) เช่น walk, watch เป็นต้น และเป็นกริยาช่องที่ 2 ในกรณีเป็นกริยาไม่ปกติ (Irregular Verb) เช่น run-ran, take-took เป็นต้น
คำกริยาช่องที่ 2 (Past Form) มี 3 แบบคือ
1. คำกริยาที่เติม –d หรือ –ed เรียกว่า Regular verb (กริยาปกติ)
1.1 โดยปกติคำกริยาทั่วไปจะเติม –ed ท้ายคำกริยาเช่น
walk - walked
jump - jumped
clean - cleaned
talk - talked
1.2 คำกริยาช่องที่ 1 ที่ลงท้ายด้วย e ให้เติม –d เช่น
like - liked
live - lived
smile - smiled
1.3 คำกริยาช่องที่ 1 ที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -ed เช่น
study - studied
cry - cried
1.4 คำกริยาช่องที่ 1 ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ให้เติม -ed เช่น
play - played
enjoy - enjoyed
obey - obeyed
1.5 คำกริยาช่องที่ 1 ที่มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียวและออกเสียงสั้น ให้เพิ่มตัวสะกดตัวท้ายอีกหนึ่งตัวแล้วจึงเติม -ed เช่น
stop - stopped
beg - begged
rub - rubbed
1.6 คำกริยาช่องที่ 1 ที่มีลงท้ายด้วย l ให้เพิ่ม l อีกหนึ่งตัวแล้วจึงเติม -ed เช่น
control - controlled
travel - travelled
1.7 คำกริยาช่องที่ 1 ที่มี 2 พยางค์และออกเสียงหนัก (stress) ที่พยางค์หลัง ให้เติมตัวสะกดตัวท้ายเพิ่มอีก 1 ตัว ก่อนเติม -ed เช่น
permit - permitted
occur - occurred
2. คำกริยาที่เปลี่ยนรูป เรียกว่า Irregular verb (กริยาอปกติ)
คือ คำกริยาที่เมื่อทำให้เป็นกริยาช่องที่ 2 แล้วจะเปลี่ยนรูปไปจากเดิมหรืออาจจะเปลี่ยนสระภายในคำเดิม เช่น
go - went
eat - ate
get - got
drink - drank
3 คำกริยาที่ไม่เปลี่ยนรูป
คือรูปจะคงที่และได้รูปเดียวกันทั้งกริยาช่องที่ 1 และกริยาช่องที่ 2 เช่น
cut - cut
put - put
hit - hit
let - let
hurt - hurt
ตัวอย่าง
ประธาน | กริยาช่องที่ 2 | กรรม | คำบอกเวลาในอดีต |
They | played | football | last Friday. |
He | studied | Science | yesterday. |
We | met | me | last week. |
My father | bought | this car | three years ago. |
การทำประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคปฏิเสธใน Past Simple Tense
1. ประโยคบอกเล่าที่มี verb to be สามารถทำให้เป็นประโยคปฏิเสธได้โดยการเติม not หลัง verb to be ทันที
ประโยคบอกเล่า (Affirmative)
|
ประโยคปฏิเสธ (Negative)
|
He/She was at home. | He/She was not at home. |
We/They were at home. | We/They were not at home. |
2. ประโยคบอกเล่าที่มี had หรือคำกริยาช่องที่ 2 สามารถทำให้เป็นประโยคปฏิเสธได้โดยใช้ did not (didn’t) วางระหว่างประธานและกริยาแท้ และกริยาแท้ต้องเปลี่ยนจาก had เป็น have หรือกริยาที่ไม่มี to (Infinitive without to)
ประโยคบอกเล่า (Affirmative)
|
ประโยคปฏิเสธ (Negative)
|
She had three dogs. | She did not have three dogs. |
Mac worked late last night. | Mac did not work late last night. |
We studied English yesterday. | We did not study English yesterday. |
การทำประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคคำถามใน Past Simple Tense
1. ประโยคบอกเล่าที่มี verb to be สามารถทำให้เป็นประโยคคำถามได้โดยการนำ verb to be มาวางไว้หน้าประธาน แล้วใส่เครื่องหมายคำถาม (question mark) ที่ท้ายประโยค
ประโยคบอกเล่า (Affirmative)
|
ประโยคคำถาม (Question)
|
She was a nurse. | Was she a nurse? |
They were in the room. | Were they in the room? |
2. ประโยคบอกเล่าที่มี had หรือคำกริยาช่องที่ 2 สามารถทำให้เป็นประโยคคำถามได้โดยนำdidวางไว้หน้าประธาน และกริยาแท้ต้องเปลี่ยนจาก had เป็น have หรือกริยาที่ไม่มี to (Infinitive without to) ตามเดิม แล้วใส่เครื่องหมายคำถาม (question mark) ที่ท้ายประโยค
ประโยคบอกเล่า (Affirmative) | ประโยคคำถาม (Question) |
She had a pen. | Did she have a pen? |
David and Alex taught English. | Did David and Alex teach English? |
การตอบคำถามของประโยคคำถามชนิดนี้จะต้องตอบด้วย Yes หรือ No ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ประโยคคำถาม
(Question)
|
ประโยคคำตอบแบบสมบูรณ์
(Full Answer)
|
ประโยคคำตอบสั้น
(Short Answer)
|
Was she a nurse? | Yes, she was a nurse. | Yes, she was. |
No, she wasn’t a nurse. | No, she wasn’t. | |
Were they at home? | Yes, they were at home. | Yes, they were. |
No. they weren’t at home. | No, they weren’t. | |
Did you have homework?* | Yes, I had homework. | Yes, I did. |
No, you didn’t have homework. | No, I didn’t. |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)