วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การใช้ Is Am Are / Verb

เมื่อไรใช้ is am are และเมื่อไรใช้แค่ verb เพื่อน ๆ หลายคนสับสนว่า ประโยคไหนเราควรใช้  is am are หรือแค่ verb เฉย ๆ  มีหลักการจำง่าย ๆ ค่ะ แต่ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจก่อนว่า ประธานตัวไหน ใช้คู่กับ verb to be ตัวไหนค่ะ
    
ประธาน
Verb to be (Present Tense)
He, She, It
Is
I
am
You, We, They
are

โครงสร้างรูปประโยคที่ใช้คู่กับ is am are มี 3 แบบคือ
1.       ถ้าเราต้องการพูดประโยคที่แปลว่า เป็น, อยู่, คือ รูปประโยค (ประธาน + is, am, are + นาม)
ตัวอย่าง
I am a student. (ฉันเป็นนักเรียน) (I + am + a student)

ประธาน
I
Verb to be
am
นาม
a student
         
We are in the class room. (พวกเราอยู่ในห้องเรียน) (we + are + in the class room.)

ประธาน
We
Verb to be
are
นาม
In the class room

He is my son. (เขาคือลูกชายของฉัน) (He + is + my son)

ประธาน
He
Verb to be
is
นาม
my son
  
2.       ถ้าเราต้องการพูดเกี่ยวกับคำคุณศัพท์ (adj) เช่น เตี้ย สูง อ้วน ผอม ดำ ขาว สวย หล่อ รูปประโยคคือ  (ประธาน + is, am, are + คำคุณศัพท์)
ตัวอย่าง
He is tall. (เขาสูง) (He + is + tall)
ประธาน
He
Verb to be
is
คำคุณศัพท์ (adj)
tall

I am short. (ฉันเตี้ย) (I + am + short)
ประธาน
I
Verb to be
am
คำคุณศัพท์ (adj)
short

They are smart. (พวกเขาฉลาด) (They + are + smart)
              
ประธาน
They
Verb to be
are
คำคุณศัพท์ (adj)
smart

3.       ถ้าเราต้องการพูดว่า กำลัง” เช่นกำลังกิน (eating), กำลังวิ่ง (running), กำลังเดิน (walking) ซึ่งกลุ่มนี้ verb จะเติม ing  รูปประโยคคือ (ประธาน + is, am, are + (verb+ing))
ตัวอย่าง
I am running. (ฉันกำลังวิ่ง) (I + am + running.)

ประธาน
I
Verb to be
am
คำคุณศัพท์ (adj)
running

You are sitting. (คุณกำลังนั่ง) (You + are + sitting.)
              
ประธาน
You
Verb to be
are
คำคุณศัพท์ (adj)
sitting

He is eating. (เขากำลังกิน) (He + is + eating.)

ประธาน
He
Verb to be
is
คำคุณศัพท์ (adj)
eating

ถ้าประโยคที่เราจะใช้ไม่ได้เกี่ยวกับเงื่อนไข 3 ข้อข้างต้น เราจะใช้ verb ต่อท้ายประธานเลยค่ะ เช่น
                I like this book. (ฉันชอบหนังสือเล่มนี้)
                He studies English. (เขาเรียนอังกฤษ)
                She loves the doll. (เธอรักตุ๊กตา)
                They stay at home. (พวกเขาพักที่บ้าน)
ข้อสังเกตในการใช้ verb ให้ถูกต้องคือ เฉพาะประธานเป็นเอกพจน์ ส่วนใหญ่ verb จะเติม s ต่อท้าย แต่ก็มี verb บางตัวต้องเปลี่ยนรูปเหมือนกัน เช่นคำว่า study ต้องเปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เป็น studies

ที่มา : https://sites.google.com/site/noodashare/kae-rm-ma/is-am-are-laea-verb

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559

12 Tense


หากคุณเคยมีปัญหากับ “ภาษาอังกฤษ” ศัพท์ก็ยาก ไหนไวยากรณ์อีกเพียบ 'Tense' ที่ทั้งท่องทั้งจำกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ยังไง๊..ยังไง ก็ไม่เข้าหัว วันนี้ Life on campus ไปเจอเคล็ดลับดีๆ ในเพจจีบัน ดอท คอม โดยคุณเอมได้เขียนสรุปทั้ง 12 tense อ่านแล้วเข้าใจง่าย จนคุณต้องร้อง...อ๋อ!!! ถ้าพร้อมแล้วไปดูสูตรเด็ดเคล็ดไม่ลับจำ 'Tense' ของคุณเอมกันเลย...
       
       มาเริ่มกันที่...
       
       ก่อนอื่นเราดูตารางคร่าวๆ ก็จะเห็นว่าตารางนี้ มี 4 คอลัมน์ กับอีก 3 แถว รวมทั้งหมดไฝว้กันออกมาได้เป็น 12 ช่อง
       โดยที่หัวตารางด้านบนในแนวตั้ง จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า tense จะมี 4 อัน คือ
       
       1. Simple  2. Continuous  3. Perfect  4. Perfect Continuous
       
       ส่วนหัวตารางด้านซ้ายในแนวนอนจะเป็น time (เวลา) จะมี 3 อัน คือ
       
       1. Present ( ปัจจุบัน)  2. Past (อดีต)  3. Future (อนาคต)
       
       ***ค่อยๆ ดูไปด้วยกันทีละคอลัมน์ในแนวตั้ง เวลาอ่านชื่อ tense ก็อ่านช่องด้านซ้ายก่อน แล้วก็ต่อด้วยช่องด้านบน 


 ช่องแรกคือ Simpleง่ายสุดเลย
       
       • Present Simple เป็นแบบที่เราเรียนกันมาง่ายๆ เลย “Sub + V1” (เติม s/es เมื่อประธานเป็นเอกพจน์)
       
       • Past Simple ก็ง่ายอีก “Sub + V2” ไปเลย ในเมื่อ V2 มันก็คือกริยาที่ใช้สำหรับในอดีตอยู่แล้ว
       
        Future Simpleเอา “Sub + will + Vinf” โดยที่คำว่า will แปลว่า "จะ" มันจะทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยในประโยค ตามด้วย Vinf ก็คือ Verb ที่ไม่เปลี่ยนไม่เติมอะไรใดๆ ทั้งสิ้น หรือแบบที่เราจำกันมาตลอดว่า Sub + will + V1 นั้นแหละ เราก็จำว่า ถ้าจะบอกว่า จะทำนู้น จะไปนี่ จะเอานั่น เราก็แค่ใช้ “will + verb” ข้างหลังที่ไม่ต้องไปเติมไรให้มันอีก เพราะ will บอกไปหมดแล้วว่ามันเป็นอนาคต เราเหลือแค่ต้องบอกว่าจะทำอะไร แค่นั้นพอ อย่าเยอะ!

       
       ***ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I will eating. I will eaten. ผิดทันที !!!!!!!!!!*** 
ช่องที่สองคือ Continuous รูปประโยคของมันจะเป็น V. to be + Ving
       (Verb to be ก็คือ is am are เป็น อยู่ คือ ที่ท่องกันมานั้นแหละ)
       
       "มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน มันก็เป็น V.to be + Ving โดยที่เราผันตัว V.to be ไปตามเวลาของมัน แต่ Ving คงเดิมตลอด เพราะตัวที่บอกความเป็น Continuous คือ Ving"
        
        Present Continuous ก็เลยจะเป็น Sub + is/am/are + Ving ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I'm kicks. I'm loves. ผิดทันที!!! แต่ถ้าเจอ I'm kicked. I'm loved. อาจจะไม่ผิดนะ เป็นรูปประโยคแบบ Passive Voice ต้องแปลความหมายเอา แต่พวก I'm said....ผิดทันที
       
       • Past Continuous รูปประโยคแบบเดิมเปี๊ยบแต่เราผันตัว is/am/are ให้กลายเป็นอดีตไปซะ ก็จะได้เป็น Sub + was/were + Ving
       
       • Future Continuous พอเป็นอนาคต เราก็ต้องใช้ “will” มาบอกว่าเรา "จะทำ" แล้วหลัง will มันต้องไม่เปลี่ยน ไม่เติมอะไร เราก็เลยได้เป็น “Sub + will + be + Ving” และ “be” ตรงกลางนั่นก็มาจาก V. to be ไง จำได้มั้ยรูปประโยคต้องเป็น V.to be + Ving ตลอด
       
       สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Continuous ในแนวตั้ง ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน
       จะมีกรอบสีเหลืองที่เป็น V.to be ตลอด และที่สำคัญที่สุดคือ มีตัวสีส้ม คือ Ving ตลอด !!!!!!!!! 

ช่องถัดมาคือ Perfect รูปของมันจะเป็น V. to have + V3 (ที่ดูเหมือนยาก แต่ก็ไม่ยากเลย)
       
       "มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน มันก็เป็น V.to have + V3 โดยที่เราผันตัว V.to have ไปตามเวลาของมัน แต่ V3 คงเดิมตลอด เพราะตัวที่บอกความเป็น Perfect คือ V3"
        
       • Present Perfect ก็เลยเป็น "Sub + has/have + V3" ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (He, She,I t, คน สัตว์ ของ 1 อัน) ก็ใช้ "has" ถ้าเป็นพหูพจน์ (You, We, They, คน สัตว์ ของมากกว่า 1) ก็ใช้ "have"
       
       • Past Perfect แบบประโยคเหมือนเดิม แต่เราต้องทำ has/have ให้มันเป็น ช่อง 2 เพราะ V2 คือ V ที่บอกอดีต แล้วช่อง 2 ของ has/have ก็คือ had เราเลยได้เป็น "Sub + had + V3" อุต๊ะ ง่ายจิมจิม!!
       
       • Future Perfect พอเป็นอนาคตก็ต้องบอกว่า "จะ..." เหมือนเดิม ได้เป็น "Sub + will + have + V3" เพราะหลัง will บอกแล้วว่า verb มันต้องธรรมดา ไม่เติม ไม่เปลี่ยน เลยต้องกลับมาใช้ have ธรรมดา แล้วก็ตามด้วย V3 ซะ ได้ Perfect ด้วย แล้วยังเป็น Future อีกต่างหาก 

       
       ***และใช้ have อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ has จำซะว่าเราเน้นบอกว่ามันเป็นอนาคต ส่วน Perfect เราแค่มี have + V3 มันก็ perfect แล้วไง ไม่ต้องไป has ให้มันเยอะ!! ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will has ..... หรือ will had.....  หรือ will v3..... ผิดทันที !!!!!!!!***
        
       สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Perfect ในแนวตั้ง ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน 
       จะมีกรอบสีพีชที่เป็น V.to have ตลอด และที่สำคัญที่สุดคือ มีตัวสีชมพู คือ V3 ตลอด !!!!!!!!! 
สุดท้ายยยยยก็คือ Perfect Continuous
       
       "ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Perfect Continuous มันก็เลยต้องมีทั้ง Perfect คือ have + V3 แล้วก็ Continuous ก็คือ Vingด้วย รูปประโยคของมันก็เลยเป็น Sub + V. to have + V.3 (ซึ่งในที่นี้คือ been ซึ่งเป็นช่อง 3 ของ be) + Ving"
       
       • Present Perfect Continuous จากรูปแบบมันเราเลยได้เป็น "Sub + has/have + been + Ving" โดย has/have been ก็บอกความเป็น perfect ส่วน Ving ก็บอกความเป็น Continuous จับมาต่อกัน
       
       • Past Perfect Continuous จับ has/have มาทำเป็นอดีตซะ ที่เหลือไม่ต้องเปลี่ยน ก็ได้เป็น “Sub + had + been + Ving”ซึ่ง had ก็บอกว่าเป็นอดีต แล้ว had+been ก็บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous ครบ!!!
       
       • Future Perfect Continuous เป็น future เมื่อไหร่ ใช้ will เมื่อนั้น! มี will เมื่อไหร่หลัง will เป็น have เท่านั้น เราก็เลยได้ว่า “Sub + will + have + been + Ving” โดย wil บอกความเป็นอนาคต have been บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous !!!!!
       

       ***ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ใช้***
       will + has + been + Ving ผิดทันที!
       will + been + Ving ผิดทันที!
       will + have + be + Ving ผิดทันที !!!!!!!
       
       สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Perfect Continuous ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลา ปัจจุบัน อดีต อนาคต
       จะมี Sub + V.to have ในกล่องสีพีช + been แล้วตบท้ายด้วย Ving ตลอด !!!!!!!!!!!

       
       ขอบคุณข้อมูลจาก :  Jeban.com